การชุมนุมปี 2018 ที่ท้าทายระบอบอำนาจของประเทศเอธิโอเปีย: การจุดประกายจากการลุกขึ้นสู้ของชาวโอโรรโม
ประวัติศาสตร์มักจะถูกบันทึกไว้ด้วยหมึกสีดำและแดง แต่บางครั้งก็ปรากฏขึ้นด้วยสีที่สดใสและรุนแรง ในปี 2018 ประเทศเอธิโอเปียได้เผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่าง剧烈ที่จุดประกายจากการชุมนุมของประชาชน ซึ่งนำไปสู่การปฏิรูปทางการเมืองและสังคมครั้งใหญ่ การชุมนุมนี้เกิดขึ้นจากความไม่พอใจต่อระบอบอำนาจ獨裁ของพรรคประชาธิปไตยของประชาชน (EPRDF) ที่ครองอำนาจมาอย่างยาวนาน
Teferra Desta, นักกิจกรรมและนักวิเคราะห์การเมืองชาวเอธิโอเปีย ได้กล่าวไว้ว่า “ความไม่พอใจได้สะสมมานานปี และการชุมนุมปี 2018 เป็นเพียงการระเบิดที่เกิดขึ้นจากเชื้อเพลิงที่ถูกกดทับมานาน”
สาเหตุหลักของการชุมนุมนั้นมาจากหลายปัจจัย
-
การละเมิดสิทธิมนุษยชน: รัฐบาล EPRDF ถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อชาวโอโรรโม ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอธิโอเปีย
-
ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจ: แม้ว่าเอธิโอเปียจะประสบความสำเร็จในการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ผลประโยชน์ก็กระจุกตัวอยู่กับชนชั้นสูงเพียงเล็กน้อย ในขณะที่คนส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในสภาวะยากจน
-
การจำกัดสิทธิเสรีภาพ: รัฐบาล EPRDF ได้ควบคุมสื่อมวลชนอย่างเข้มงวด และกดขี่ฝ่ายค้านทางการเมือง ทำให้ประชาชนไม่สามารถแสดงความคิดเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้อย่างอิสระ
การชุมนุมครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2016 ในแคว้นโอโรรโม และลุกลามไปทั่วประเทศในปี 2018
เหตุการณ์สำคัญ | วันที่ |
---|---|
การชุมนุมครั้งแรกที่แคว้นโอโรรโม | กรกฎาคม 2016 |
การชุมนุมลุกลามไปทั่วประเทศ | มกราคม 2018 |
รัฐบาล EPRDF ประกาศการปฏิรูป | มีนาคม 2018 |
Abiy Ahmed เลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี | เมษายน 2018 |
การชุมนุมปี 2018 นำไปสู่การปฏิรูปทางการเมืองและสังคมครั้งใหญ่ ในเดือนมีนาคม ปี 2018 รัฐบาล EPRDF ประกาศการปฏิรูปที่สำคัญ รวมถึงการปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง และการอนุญาตให้มีการประท้วงอย่างสันติ
ในเดือนเมษายน ปี 2018 Abiy Ahmed จากพรรค EPRDF ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ Abiy Ahmed เป็นผู้นำที่ยืดหยุ่นและมีความคิดก้าวหน้า เขานำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
- การเปิดเสรีทางการเมือง: Abiy Ahmed ยกเลิกสถานะฉุกเฉิน และอนุญาตให้มีการก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่
- การปฏิรูปเศรษฐกิจ: Abiy Ahmed เปิดประเทศให้กับการลงทุนต่างชาติและดำเนินนโยบายเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
- การปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ: Abiy Ahmed ได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านที่เคยขัดแย้งกัน
Teferra Desta กล่าวว่า “การชุมนุมปี 2018 เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญสำหรับเอธิโอเปีย มันทำให้ประชาชนได้ตระหนักถึงพลังของตนเอง และนำไปสู่การปฏิรูปที่จำเป็น”
อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปของ Abiy Ahmed ยังคงเผชิญกับความท้าทายอยู่มาก
-
ความขัดแย้งระหว่างชาติพันธุ์: เอธิโอเปียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ยังคงเป็นปัญหาสำคัญ
-
การทุจริต: การทุจริตและการใช้อำนาจอย่างไม่ชอบธรรมยังคงเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ
-
ความไม่มั่นคง: ประเทศเอธิโอเปียยังคงเผชิญหน้ากับความไม่มั่นคงในบางพื้นที่ เช่น ในแคว้นติเกรย์
อนาคตของเอธิโอเปียยังคงเป็นปริศนา แต่การชุมนุมปี 2018 แสดงให้เห็นถึงพลังของประชาชนในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง Teferra Desta กล่าวว่า “เราต้องไม่ลืมบทเรียนจากการชุมนุมครั้งนี้ การมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการสร้างอนาคตที่สดใสสำหรับเอธิโอเปีย”